รีวิว Uprising (2024) กบฏผงาดแผ่นดิน

ภาพยนตร์เกาหลีเรื่องใหม่ที่มาแรงที่สุดกับสงครามอันตรายศึกห้ำหั่นของสองเพื่อนต่างฐานันดรศักดิ์ใน Uprising (กบฏผงาดแผ่นดิน) เนื้อหาที่เล่าถึงเหตุการณ์ในช่วงปลายศตวรรษที่ 16 จงรยอ บุตรชายเพียงคนเดียวของไต้เท้าผู้ทรงอิทธิพลในโชซอน ได้เติบโตและสนิทสนมกับ ชอนยอง ทาสรับใช้ของเขา แต่ความเลื่อมล้ำทางชนชั้นทำให้มิตรภาพของพวกเขามิอาจจะเป็นที่ยอมรับได้

เมื่อจักรวรรดิญี่ปุ่นบุกรุกราน กษัตริย์ซอนโจ ทรงตัดสินพระทัยละทิ้งราษฎร ทำให้ประชาชนต้องหันมาตั้งกองรบต่อสู้กับผู้รุกรานกันเอง แต่เมื่อสงครามสิ้นสุดลง เหล่าผู้กล้าต่างถูกมองว่าเป็นผู้ทรยศ และการเผชิญหน้าระหว่าง จงรยอ กับ ชอนยาง ที่บัดนี้กลายเป็นศัตรูต่อกัน และได้เริ่มการฟาดฟันด้วยเดิมพันแห่งชีวิต

นี่คือผลงานล่าสุดของผู้กำกับ คิมซางมัน ที่ถือว่าห่างหายจากการสร้างหนังไปนับสิบปี เพราะผันตัวไปเป็นผู้สร้างเบื้องหลังหนังปัง ๆ หลายเรื่องแทน แม้ว่านี่จะเป็นหนังแนวซากึกเรื่องแรกของที่เข้าได้บรรจงสร้าง แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันออกมาเป็นคอนเทนท์ที่ค่อนข้างทำถึง แม้ว่าหลาย ๆ องค์ประกอบจะค่อนข้างเป็นไปตามมาตรฐานเดิม ๆ ของหนังเกาหลีทั่ว ๆ ไปสักหน่อยก็ตามที

โดยสรุปแล้วนั้น Uprising กบฎผงาดแผ่นดิน ก็เป็นหนังแนวซากึกแอคชันต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรีและความเท่าเทียมที่อาจจะไม่ได้มีความแปลกใหม่หรือสดใหม่อะไรเท่าไหร่ แต่ก็สามารถตอบโจทย์สิ่งที่คนดูอยากจะเห็นได้อย่างเต็มที่ ด้วยงานสร้างที่ทำได้ดี ทีมนักแสดงฟอร์มดียกชุด กลายเป็นหนัง 2 ชั่วโมงที่แทบจะวางไม่ลง แม้ว่าบทจะไม่ได้เกินความคาดหมายอะไรเลย แต่ความมันส์และความเท่ของหนังเรื่องนี้ สนุกแบบชวนติดตามไปทุกอณูจริง ๆ